ประเภทริ้วรอยบนใบหน้า
สามารถแบ่งออกได้เป็น 3 ประเภท คือ
· ริ้วรอยที่(ควร)รับได้ เกิดขึ้นอย่างเหมาะสมกับวัย เช่น รอยตีนกา ร่องแก้มที่เกิดจากการยิ้ม ซึ่งจะทำให้ดูใจดี โอบอ้อมอารี มีความสุข
· ริ้วรอยที่(ควร)รับไม่ได้ ส่วนใหญ่เป็นร่องรอยจากพฤติกรรม เกิดจากความเครียด ความกังวล ทำให้แลดูสูวัยกว่าอายุจริง เช่น บริเวณรอบริมฝีปาก หน้าผาก ระหว่างคิ้ว รวมถึงริ้วรอยใต้ตา
· ริ้วรอยแถม คือ ริ้วเล็กๆ จำนวนมาก ทำให้ดูเหมือนผิวไม่เรียบเนียน พวกนี้ไม่ใช่ริ้วรอยถาวร เกิดจากผิวแห้ง ขาดความชุ่มชื่น เมื่อทาครีมบำรุงอย่างต่อเนื่องจะดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด รอยพวกนี้ไม่เกี่ยวกับคอลลาเจนเลย
สาเหตุที่ทำให้เกิดริ้วรอยก่อนวัยอันควร
1 สาเหตุจากอายุ
อายุ เป็นสัจธรรมที่ใครก็หลีกหนีไม่พ้น เมื่ออายุมากขึ้นผิวพรรณอันเป็นสังขารก็ย่อมล่วงโรยตามวันเวลาที่มากขึ้นเป็นธรรมดา อย่างไรก็ตามมีการศึกษาการเกิดริ้วรอยบนใบหน้าของผู้หญิง พบว่าจะแตกต่างกันตามวัยที่เพิ่มขึ้นดังนี้
· ปลายอายุ 20 เริ่มมีริ้วรอยบางๆ ที่ใต้ตา ริ้วรอยรอบๆ ตา ซึ่งเป็นผลจากการยิ้ม
· ต้นอายุ 30 มีริ้วรอยบางๆ รอบดวงตาลึกขึ้น และรวมตัวชัดเป็นรอยเหี่ยวย่น รอยตีนกาที่หางตา และริ้วรอยบางๆ ระหว่างคิ้วและบนหน้าผาก ที่เป็นผลจากกิริยาขมวดคิ้ว
· ปลายอายุ 30 รอยเหี่ยวย่นรอบดวงตา หน้าผาก และหว่างคิ้วเพิ่มมากขึ้น รอยเหี่ยวย่นรอบริมฝีปาก รอยเหี่ยวใต้ตา และร่องแก้มหย่อนคล้อยตามแรงโน้มถ่วงของโลก
· อายุ 40 ขึ้นไป รอยเหี่ยวย่นรอบดวงตา ริมฝีปาก หน้าผาก และหว่างคิ้ว รอยเหี่ยวย่นจากการหย่อนคล้อยของผิวหน้า เส้นริ้วรอยที่ลำคอ
2 ปริมาณสารคอลลาเจนที่อยู่ใต้ผิว
โดยปกติผิวหน้าคุณเต่งตึงสวยงามอยู่ได้ เพราะสารคอลลาเจนที่อยู่ใต้ผิว ฉะนั้นเมื่ออายุมากขึ้น ร่างกายผลิตคอลลาเจนได้น้อยลง หรือความสมบูรณ์ของคอลลาเจนเสื่อมลง ริ้วรอยย่อมเกิดขึ้น แต่เกิดช้าๆ ทีละน้อย เริ่มจากรอยเล็กๆ บางๆ จนแทบมองไม่เห็นหรือมองข้ามไป มารู้ตัวอีกทีก็เป็นรอยลึกเสียแล้ว ซึ่งในแต่ละคน แต่ละเชื้อชาติล้วนมีต้นทุนคอลลาเจนแตกต่างกัน ส่วนคนเอเซียอย่างเรา แม้คอลลาเจนไม่แข็งแรงเท่าคนผิวดำ แต่ดีกว่าฝรั่งเยอะ เปรียบเทียบคนไทยกับฝรั่งที่อายุเท่ากันจะเห็นว่าคนไทยสาว ใส ดูดีกว่ามาก
3 สภาวะแวดล้อม และวิถีชีวิต
สภาวะแวดล้อม และวิถีชีวิตก็มีส่วนในการเกิดริ้วรอยด้วยเช่นกัน แพทย์ผิวหนังจึงแนะนำวิธีดูคุณภาพผิวที่แท้จริงด้วยการเปรียบเทียบระหว่างผิวที่ใบหน้ากับผิวที่ก้น ถ้าผิวที่หน้ามีริ้วรอยมากมาย ในขณะที่ก้นยังเต่งตึงอยู่ละก็ แสดงว่าพื้นฐานผิวคุณดี ปัจจัยภาพนอกเป็นตัวการทำลายคอลลาเจน และก่อให้เกิดริ้วรอย เช่น แสงแดด สูบบุหรี่จัด การที่น้ำหนักขึ้นๆ ลงๆ เป็นต้น
4 แสงแดด
เจ้าตัวนี้แหล่ะค่ะ ที่สามารถทำให้เกิดริ้วรอยก่อนวัยอันควรได้ เป็นสิ่งที่เราควรหลีกเลี่ยงและควรป้องกันเป็นอย่างยิ่ง รังสีอัลตราไวโอเลตในแสงแดดถือเป็นศัตรูตัวฉกาจที่กระตุ้นให้ผิวสร้างอนุมูลอิสระ และทำลายอีลาสตินกับคอลลาเจนในผิวหนังให้เสื่อมสภาพเร็วขึ้น ซึ่งเจ้ามารร้ายอัลตราไวโอเลตนี้มีพี่น้องร่วมท้อง 2 ชนิด รังสีผู้พี่คือ อัตราไวโอเลตเอ (ชื่อเล่นคือ UVA) โดย UVA จะค่อยๆทำให้ผิวเสื่อมสภาพโดยที่เราไม่รู้ตัวว่ากำลังถูก UVA ทำลายความแข็งแรงของอีลาสติน หรือคอลลาเจนอยู่ สาวๆ ออฟฟิศที่ทำงานในห้องแอร์เย็นฉ่ำไม่ทาครีมกันแดด หารู้ไม่ว่า UVA สามารถทะลุผ่านกระจกเข้าไปทำลายคุณได้ตั้งแต่เช้าจรดเย็น
ผิดกับรังสีผู้น้อง ‘อัตราไวโอเลตบี’ (UVB) แม้เธอจะทำงานเป็นรูทีน แผลงฤทธิ์ตอนเก้าโมงเช้า และตอกบัตรกับตอนห้าโมงเย็น แต่ความรุนแรงของยูวีชนิดนี้ นอกจากจะทำให้ผิวแก่เร็วแล้ว ยังทำให้ผิวไหม้เกรียม ปวดแสบปวดร้อน และเป็นมะเร็งที่ผิวหนังได้
*** ฉะนั้นหากใครที่อายุเพิ่มมากขึ้น รับประทานอาหารที่ไม่เป็นประโยชน์ ไม่เคยออกกำลังกาย แล้วยังโดนแดดเสมอ เป็นต้น รอยประสบการณ์ก็ย่อมจะเกิดขึ้นได้ง่าย และมากกว่าสาเหตุที่เกิดจากอายุเพียงอย่างเดียวซะอีก
ขอขอบคุณข้อมูลดีๆจาก: หนังสือผิวคลินิก และ นิตยสาร Health & Cuisine
· ริ้วรอยที่(ควร)รับได้ เกิดขึ้นอย่างเหมาะสมกับวัย เช่น รอยตีนกา ร่องแก้มที่เกิดจากการยิ้ม ซึ่งจะทำให้ดูใจดี โอบอ้อมอารี มีความสุข
· ริ้วรอยที่(ควร)รับไม่ได้ ส่วนใหญ่เป็นร่องรอยจากพฤติกรรม เกิดจากความเครียด ความกังวล ทำให้แลดูสูวัยกว่าอายุจริง เช่น บริเวณรอบริมฝีปาก หน้าผาก ระหว่างคิ้ว รวมถึงริ้วรอยใต้ตา
· ริ้วรอยแถม คือ ริ้วเล็กๆ จำนวนมาก ทำให้ดูเหมือนผิวไม่เรียบเนียน พวกนี้ไม่ใช่ริ้วรอยถาวร เกิดจากผิวแห้ง ขาดความชุ่มชื่น เมื่อทาครีมบำรุงอย่างต่อเนื่องจะดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด รอยพวกนี้ไม่เกี่ยวกับคอลลาเจนเลย
สาเหตุที่ทำให้เกิดริ้วรอยก่อนวัยอันควร
1 สาเหตุจากอายุ
อายุ เป็นสัจธรรมที่ใครก็หลีกหนีไม่พ้น เมื่ออายุมากขึ้นผิวพรรณอันเป็นสังขารก็ย่อมล่วงโรยตามวันเวลาที่มากขึ้นเป็นธรรมดา อย่างไรก็ตามมีการศึกษาการเกิดริ้วรอยบนใบหน้าของผู้หญิง พบว่าจะแตกต่างกันตามวัยที่เพิ่มขึ้นดังนี้
· ปลายอายุ 20 เริ่มมีริ้วรอยบางๆ ที่ใต้ตา ริ้วรอยรอบๆ ตา ซึ่งเป็นผลจากการยิ้ม
· ต้นอายุ 30 มีริ้วรอยบางๆ รอบดวงตาลึกขึ้น และรวมตัวชัดเป็นรอยเหี่ยวย่น รอยตีนกาที่หางตา และริ้วรอยบางๆ ระหว่างคิ้วและบนหน้าผาก ที่เป็นผลจากกิริยาขมวดคิ้ว
· ปลายอายุ 30 รอยเหี่ยวย่นรอบดวงตา หน้าผาก และหว่างคิ้วเพิ่มมากขึ้น รอยเหี่ยวย่นรอบริมฝีปาก รอยเหี่ยวใต้ตา และร่องแก้มหย่อนคล้อยตามแรงโน้มถ่วงของโลก
· อายุ 40 ขึ้นไป รอยเหี่ยวย่นรอบดวงตา ริมฝีปาก หน้าผาก และหว่างคิ้ว รอยเหี่ยวย่นจากการหย่อนคล้อยของผิวหน้า เส้นริ้วรอยที่ลำคอ
2 ปริมาณสารคอลลาเจนที่อยู่ใต้ผิว
โดยปกติผิวหน้าคุณเต่งตึงสวยงามอยู่ได้ เพราะสารคอลลาเจนที่อยู่ใต้ผิว ฉะนั้นเมื่ออายุมากขึ้น ร่างกายผลิตคอลลาเจนได้น้อยลง หรือความสมบูรณ์ของคอลลาเจนเสื่อมลง ริ้วรอยย่อมเกิดขึ้น แต่เกิดช้าๆ ทีละน้อย เริ่มจากรอยเล็กๆ บางๆ จนแทบมองไม่เห็นหรือมองข้ามไป มารู้ตัวอีกทีก็เป็นรอยลึกเสียแล้ว ซึ่งในแต่ละคน แต่ละเชื้อชาติล้วนมีต้นทุนคอลลาเจนแตกต่างกัน ส่วนคนเอเซียอย่างเรา แม้คอลลาเจนไม่แข็งแรงเท่าคนผิวดำ แต่ดีกว่าฝรั่งเยอะ เปรียบเทียบคนไทยกับฝรั่งที่อายุเท่ากันจะเห็นว่าคนไทยสาว ใส ดูดีกว่ามาก
3 สภาวะแวดล้อม และวิถีชีวิต
สภาวะแวดล้อม และวิถีชีวิตก็มีส่วนในการเกิดริ้วรอยด้วยเช่นกัน แพทย์ผิวหนังจึงแนะนำวิธีดูคุณภาพผิวที่แท้จริงด้วยการเปรียบเทียบระหว่างผิวที่ใบหน้ากับผิวที่ก้น ถ้าผิวที่หน้ามีริ้วรอยมากมาย ในขณะที่ก้นยังเต่งตึงอยู่ละก็ แสดงว่าพื้นฐานผิวคุณดี ปัจจัยภาพนอกเป็นตัวการทำลายคอลลาเจน และก่อให้เกิดริ้วรอย เช่น แสงแดด สูบบุหรี่จัด การที่น้ำหนักขึ้นๆ ลงๆ เป็นต้น
4 แสงแดด
เจ้าตัวนี้แหล่ะค่ะ ที่สามารถทำให้เกิดริ้วรอยก่อนวัยอันควรได้ เป็นสิ่งที่เราควรหลีกเลี่ยงและควรป้องกันเป็นอย่างยิ่ง รังสีอัลตราไวโอเลตในแสงแดดถือเป็นศัตรูตัวฉกาจที่กระตุ้นให้ผิวสร้างอนุมูลอิสระ และทำลายอีลาสตินกับคอลลาเจนในผิวหนังให้เสื่อมสภาพเร็วขึ้น ซึ่งเจ้ามารร้ายอัลตราไวโอเลตนี้มีพี่น้องร่วมท้อง 2 ชนิด รังสีผู้พี่คือ อัตราไวโอเลตเอ (ชื่อเล่นคือ UVA) โดย UVA จะค่อยๆทำให้ผิวเสื่อมสภาพโดยที่เราไม่รู้ตัวว่ากำลังถูก UVA ทำลายความแข็งแรงของอีลาสติน หรือคอลลาเจนอยู่ สาวๆ ออฟฟิศที่ทำงานในห้องแอร์เย็นฉ่ำไม่ทาครีมกันแดด หารู้ไม่ว่า UVA สามารถทะลุผ่านกระจกเข้าไปทำลายคุณได้ตั้งแต่เช้าจรดเย็น
ผิดกับรังสีผู้น้อง ‘อัตราไวโอเลตบี’ (UVB) แม้เธอจะทำงานเป็นรูทีน แผลงฤทธิ์ตอนเก้าโมงเช้า และตอกบัตรกับตอนห้าโมงเย็น แต่ความรุนแรงของยูวีชนิดนี้ นอกจากจะทำให้ผิวแก่เร็วแล้ว ยังทำให้ผิวไหม้เกรียม ปวดแสบปวดร้อน และเป็นมะเร็งที่ผิวหนังได้
*** ฉะนั้นหากใครที่อายุเพิ่มมากขึ้น รับประทานอาหารที่ไม่เป็นประโยชน์ ไม่เคยออกกำลังกาย แล้วยังโดนแดดเสมอ เป็นต้น รอยประสบการณ์ก็ย่อมจะเกิดขึ้นได้ง่าย และมากกว่าสาเหตุที่เกิดจากอายุเพียงอย่างเดียวซะอีก
ขอขอบคุณข้อมูลดีๆจาก: หนังสือผิวคลินิก และ นิตยสาร Health & Cuisine