ทำไมต้องเป็นสิวด้วยล่ะ?
ตอบได้ว่า สิว (Acne) ก็เป็นโรคผิวหนังอีกชนิดหนึ่ง ลักษณะเป็นตุ่มเล็กๆ เป็นหนองด้วย พบมากที่ใบหน้ามากกว่าที่อื่น เกิดได้กับคนทุกวัย แต่มักเป็นมากที่สุดกับวัยรุ่น อายุระหว่าง 12-24 ปี ซึ่งโดยปกติแล้ว พออายุย่างเข้าเลขสาม สิวก็มักจะค่อยๆ หายไปเอง ยกเว้น ในบางช่วง ที่ระดับฮอร์โมน ผันแปร เช่น ช่วงก่อนมีประจำเดือน ก็อาจมีมาให้เห็นบ้างประปราย ไม่ใช่เรื่องใหญ่เรื่องโตอะไร
แต่ถ้าใครเป็นสิว แล้วไม่หายสักที สันนิษฐาน ไว้ก่อนได้เลยว่า อาจเป็นเพราะกรรมพันธุ์ อันนี้รักษาเองไม่มีทางหายแน่ ควรรีบไปปรึกษา คุณหมอวิเคราะห์เจาะลึกกัน ไปเลยว่าใช้ยาอะไรดี ถ้านอกเหนือจากกรณีนี้ ทดลองวิธีป้องกันและรักษาสิว คงมีสักข้อที่เหมาะกับคุณ
แนวทางปฏิบัติสำหรับ “ป้องกัน และ รักษา"สิว"
1. หยุดเอามือสัมผัสหน้า หรือเท้าคางเวลาคิด เพราะมือของเราเต็มไปด้วยแบคทีเรีย ซึ่งจะทำให้สิวเห่อได้ และอย่าบีบ แกะ เกาสิว จะทำให้เกิดรอยแผลเป็น รอยดำจากสิว รอยนูน หรือ รอยหลุมจากสิวขึ้นบนหน้าได้ ดังนั้น ถ้าไม่อยากมีรอยแผลเป็นเอาไว้เตือนใจละก็ ดูแต่ตา (มืออย่าต้อง) เป็นดีที่สุดจร้าๆ
2. ดูแลรักษาความสะอาดให้ถูกวิธี
2.1 ผลิตภัณฑ์ล้างหน้า เช่น สบู่ เจล โฟม ควรเลือกให้เหมาะกับสภาพผิวมัน และมีตัวยาป้องกันการเกิดสิว
2.2 ล้างหน้าวันละ 2 ครั้ง คือ เช้าและเย็น ด้วยสบู่หรือคลีนเซอร์อย่างอ่อนที่ไม่ระคายเคือง แล้วล้างออกด้วยน้ำสะอาด ซับเบาๆด้วยผ้าขนหนู จำไว้ว่าไม่ควรล้างหน้าบ่อยๆ เพราะจะทำให้ผิวหน้าสูญเสียความชุ่มชื่น โดยไม่ได้ช่วยป้องกันสิวแต่อย่างใด
2.3 เมื่อใช้คลีนเซอร์ล้างหน้า ต้องล้างออกให้หมดจด อย่าให้มีคราบตกค้าง ที่สำคัญ คือต้องล้างให้ขึ้นไปตีนผม เพื่อล้างน้ำมันและคราบสกปรก ที่อาจจะเป็นตัวก่อสิวออกไป สำหรับคนที่มีผมมัน ควรสระผมทุกวัน
2.4 ล้างหน้าทุกครั้ง หลังทำกิจกรรมที่มีเหงื่อออกมาก แต่เน้นว่า “ล้างด้วยน้ำเปล่าเท่านั้น”
2.5 งดใช้ผลิตภัณฑ์จำพวกขัด-ถู ทั้งหลายให้หมด รวมทั้งสบู่ที่ค่อนข้างแรง เพราะนอกจากไม่ช่วยให้สิวหาย ยังอาจทำให้ระคายเคืองหรือติดเชื้อมากขึ้นกว่าเดิม
2.6 หน้ามันมาก อาจต้องใช้โลชั่นเช็ดหน้า หรือใช้ยารับประทานกลุ่ม Retionoids หรือ ยาคุมกำเนิดกลุ่ม Dian-35 เพื่อลดหน้ามัน
3. "โกนหนวด" ให้ปลอดภัย
การโกนหนวด ก็มีผลกับสิวเหมือนกัน เพราะเป็นหนึ่งในกิจกรรมที่สร้างความระคายเคืองให้กับผิว
วิธีการโกนหนวดที่ถูกต้องและปลอดภัย คือ ให้เลือกที่โกนหนวด ที่เหมาะมือ (จะได้ไม่พลาดพลั้งเวลาโกน) ใบมีดคม (ทำให้โกนง่าย) และใช้สบู่และน้ำ ทำความสะอาดหนวดเสีย ก่อน แล้วจึงค่อยชโลมครีม โกนหนวดลงไป จะทำให้เส้นขนนุ่มและโกนง่ายขึ้น
4. ไม่ควรอาบแดด
หลายคนเข้าใจผิดว่า อาบแดด ช่วยให้สิวยุบ จริงๆแล้วไม่เกี่ยว กันเลย แต่ที่เราเห็นเป็นอย่างนั้น เพราะสีผิวที่คล้ำขึ้น ทำให้มองเห็นเม็ดสิว ไม่ชัด และแสงแดดทำให้ผิวแห้งขึ้นเท่านั้น ซึ่งถ้าจะพูดถึงผลระยะยาว การอาบแดดมีแต่ภัยร้ายทั้งนั้น ทำให้ผิวเหี่ยวย่นก่อนวัย แถมยังอาจ มีมะเร็งผิวหนังเป็นของแถม และสำหรับคนที่ทายาแก้สิว การถูกแสงแดด แรงๆ จะทำให้ผิวไหม้เสียด้วย
5. เลือกเครื่องสำอางที่เหมาะสม
- เลือกครีมกันแดด SPF ประมาณ 15 เพื่อป้องกันความมันของเนื้อครีม
- ครีมบำรุง เลือกที่ไม่มีส่วนผสมของ น้ำมัน และไม่ควรมัน ไม่มีฮอร์โมนผสมในครีมบำรุง
- ช่วงที่รักษาสิว ถ้าจะให้ได้ผลดี ให้เปลี่ยนมาใช้เครื่องสำอาง ประเภทปราศจากน้ำมัน (oil-free) ไม่ว่าจะเป็นรองพื้น, บรัชออน, อายแชว์โดว์ หรือมอยส์เจอร์ไรเซอร์
- อย่าตื่นตกใจ ถ้าช่วง 2-3 สัปดาห์แรกของการรักษาสิว อาจจะทารองพื้นยากไปสักนิด เพราะตัวยาบางประเภท เช่น topical tretinoin หรือ benzoyl poroxide ทำให้ผิวแดง หรือเป็นสะเก็ด แต่ไม่นานอาการนี้จะหายไปเอง
- งดใช้ผลิตภัณฑ์ใส่ผมหรือจัดแต่งทรงผมสักระยะ เพราะสารในผลิตภัณฑ์เหล่านี้ มักตกค้างอยู่ ที่รากผม ให้เกิดสิว หรือก่อให้เกิดการระคายเคืองเพิ่มขึ้น
-เลือกใช้เครื่อง สำอางที่มีป้ายระบุบอกว่า noncomedogenic (ไม่ก่อให้เกิดสิว)
- ครีมแก้แพ้ หรือ สบู่ล้างหน้าสำหรับผิวแพ้ เป็นสิ่งจำเป็นสำหรับผิวแพ้ง่าย (Sensitive skin)
6. ทำความสะอาดรูขุมขนด้วยสมุนไพร
ทำความสะอาดรูขุมขนอาทิตย์ละ 1 ครั้ง ด้วยไอน้ำจากสมุนไพร ธรรมชาติ
ส่วนผสม
-ใบไธม์แห้ง (thyme-เป็นเครื่องเทศชนิดหนึ่ง) 2 ช้อนโต๊ะ
- ลาเวนเดอร์ 2 ช้อนโต๊ะ
- น้ำร้อน 1 ชามอ่าง
วิธีการทำ ง่ายๆ แค่นำส่วนผสมใส่รวมกันในชามอ่าง แล้วใช้ผ้าขนหนู คลุม ศรีษะไว้เหนือชามอ่าง เพื่อให้ใบหน้าได้รับ ไอน้ำจากสมุนไพร ทั้งสองชนิด ประมาณ 10 นาที
หมายเหตุ : ระวังอย่าเอาหน้าเข้าไปใกล้เกินไป ผิวอาจจะเกิดอาการแสบ เพราะความร้อน : สมุนไพรทั้งสองชนิด มีคุณสมบัติในการปกป้อง ผิวจากเชื้อจุลินทรีย์ และช่วยไม่ให้เกิดการติดเชื้อ
7. ออกกำลังกาย
ออกกำลังกายสม่ำเสมอ เพราะการออกกำลังกายช่วยทำให้เลือดหมุนเวียนดี มีออกซิเจนไปเลี้ยงอวัยวะต่างๆได้เต็มที่ และจะช่วยให้คุณมีผิวที่สวยงามขึ้นด้วย ควรให้เวลาที่เพียงพอสำหรับการออกกำลังกาย อย่างน้อย 3 ครั้ง /สัปดาห์
8. กินเพื่อสุขภาพ
- งดอาหารที่ทำให้เกิดสิวง่าย เช่น อาหารมัน อาหารรสจัด ทุเรียน ขนมหวาน ไอศครีม เป็นต้น ก็เพราะว่า เรากินอะไรก็ได้อย่างนั้น ดังนั้นกินไขมันหน้ายิ่งมัน ทนได้ก็กินไปค่ะ
- ควรรับประทานผักและผลไม้จำพวกถั่วและเมล็ดธัญพืชในอาหารประจำวันของคุณ เพราะประกอบไปด้วยแร่ธาตุและวิตามินมากมายที่ช่วยในการบำรุงผิวพรรณของคุณให้สวยเปล่งปลั่ง
9. นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ
พักผ่อนให้เพียงพอ เพราะขณะที่นอนหลับ เซลล์ผิวหนังจะฟื้นฟูสภาพตัวเองที่เหน็ดเหนื่อยมาตลอดทั้งวัน ลองเข้านอนให้เร็วขึ้นกว่าปกติ 1-2 ชั่วโมง หน้าตาจะสดใสขึ้นค่ะ
10. จัดการความเครียด
สาเหตุของการเป็นสิวที่พบบ่อยคือความเครียด ดังนั้นควรหาวิธีผ่อนคลาย เพราะจะช่วยให้การไหลเวียนของเลือดและน้ำเหลือง รวมทั้งการทำงานของเม็ดเลือดขาวในร่างกายดีขึ้น
11. ทำดีท็อกซ์
การเป็นสิวย่อมแสดงว่าร่างกายในช่วงนั้นมีท็อกซินหรือพิษสะสมในร่างกาย การทำดีท็อกซ์จะช่วย
ขจัดสารพิษในร่างกายได้
*** เห็นไหมล่ะค่ะว่า วิธีรักษาสิวและป้องกันการเกิดสิวที่นำมาแนะนำนี้ไม่ได้ยุ่งยากเลย เป็นเพียงการสร้างสุขลักษณะนิสัยที่ดีเบื้องต้นในการดูแลตัวเองในชีวิตประจำวันแบบง่ายๆ เท่านั้นเอง ที่เราสามารถทำได้ทันที และเมื่อเราทำตามคำแนะนำนี้อย่างต่อเนื่อง นอกจากจะทำให้ใบหน้าและผิวพรรณสวยเนียน ดูดีขึ้นแล้ว ยังทำให้ร่างกายของเราแข็งแรงขึ้นอีกด้วย ที่เป็นการดูแลตนเองและแก้ปัญหาสิวที่ต้นเหตุอย่างแท้จริงค่ะ
เรียบเรียงข้อมูลโดย : acnecaresite.blogspot.com
ขจัดสารพิษในร่างกายได้
*** เห็นไหมล่ะค่ะว่า วิธีรักษาสิวและป้องกันการเกิดสิวที่นำมาแนะนำนี้ไม่ได้ยุ่งยากเลย เป็นเพียงการสร้างสุขลักษณะนิสัยที่ดีเบื้องต้นในการดูแลตัวเองในชีวิตประจำวันแบบง่ายๆ เท่านั้นเอง ที่เราสามารถทำได้ทันที และเมื่อเราทำตามคำแนะนำนี้อย่างต่อเนื่อง นอกจากจะทำให้ใบหน้าและผิวพรรณสวยเนียน ดูดีขึ้นแล้ว ยังทำให้ร่างกายของเราแข็งแรงขึ้นอีกด้วย ที่เป็นการดูแลตนเองและแก้ปัญหาสิวที่ต้นเหตุอย่างแท้จริงค่ะ
เรียบเรียงข้อมูลโดย : acnecaresite.blogspot.com