ครีมรักษาสิว ยารักษาสิว วิธีรักษาสิวอักเสบให้หายขาดไม่กลับมาเป็นอีก

เพื่อนๆ ที่มีปัญหาสิวรบกวนจิตใจและใบหน้า ทั้งสิวอักเสบ สิวบวมแดง สิวหัวหนอง หรือสิวอักเสบไม่มีหัวก็ตาม ลองนำสูตรรักษาสิวนี้ไปใช้ดูนะคะ โดยส่วนตัวใช้วิธีนี้แล้วได้ผลดีเป็นที่พอใจ สิวหายเกลี้ยง วิธีนี้ใช้ครีมรักษาสิวไม่กี่ตัวก็เอาอยู่ค่ะ ก่อนอื่นไปดูขั้นตอนวิธีการรักษาสิวกันก่อนค่ะ จากนั้นจะพูดถึงรายละเอียดของครีมหรือยารักษาสิวแต่ละตัวที่ใช้


สรุปขั้นตอนรักษาสิวอักเสบ

ช่วงเช้า
  • ล้างหน้าด้วยสบู่เหลว ACNE-AID liquid cleanser 
  • หลังล้างหน้าเสร็จ เช็ดหน้าให้สะอาดแล้วทา AloeGel (เจลว่านหางจระเข้) เพื่อเพิ่มความชุ่มชื้นแก่ผิวหน้า 
  • แต้มหัวสิวด้วยครีมแต้มสิว 
  • หากต้องออกแดดบ่อยๆ ให้ทาครีมกันแดด โดยเลือกครีมที่ไม่ก่อให้เกิดการอุดตันหรือเพิ่มความมันบนใบหน้า
ช่วงเย็น
  • ก่อนล้างหน้าในตอนเย็น ทา BENZAC AC 5% (หรือ 2.5% สำหรับคนผิวบอบบาง แพ้ง่าย) ทายาบางๆ ทั่วใบหน้าหรือเฉพาะบริเวณสิว ทาทิ้งไว้นาน 5-10 นาที 
  • จากนั้นล้างหน้าด้วย ACNE-AID liquid cleanser 
  • หลังล้างหน้าเสร็จ เช็ดหน้าให้สะอาดแล้วทา AloeGel (เจลว่านหางจระเข้) เพิ่มความชุ่มชื้นแก่ผิวหน้า 
  • แต้มหัวสิวด้วยครีมแต้มสิว
***เมื่อสิวลดลงหรือหายเป็นสิวแล้ว ก็ไม่ต้องทา BENZAC AC ต่อนะคะ แค่ล้างหน้าด้วยสบู่เหลว ACNE-AID liquid cleanser ในทุกเช้า-เย็นก็พอ และก็ทาครีมบำรุงผิวหน้าตามปกติค่ะ

คราวนี้ลองมาดูรายละเอียดของครีมรักษาสิวแต่ละตัวที่ใช้กันค่ะ

1. ACNE-AID liquid cleanser
ผลิตภัณฑ์ล้างหน้า Acne-aid (สีแดง) ตัวนี้แนะนำเลยค่ะ ใช้ดีมาก และยังได้รับความนิยมใช้กันค่อนข้างมาก เหมาะกับผู้มีปัญหาสิว ผิวแพ้ง่าย สามารถความสะอาดผิวหน้าล้ำลึก อ่อนโยนต่อผิวมัน และผิวผสม โดยไม่ทำให้ผิวแห้งจนเกินไป สามารถใช้ร่วมกับยารักษาสิวได้อย่างมีประสิทธิภาพ
โดยตอนล้างหน้าจะรู้สึกลื่นๆ แต่สะอาดหมดจดแน่นอนค่ะไม่ต้องกังวล หลังล้างเสร็จจะรู้สึกชุ่มชื่นดี ครีมล้างหน้า Acne-aid จะมีให้เลือก 2 สูตร โดย Acne aid สีแดง สำหรับคนผิวมัน และผิวผสม ส่วนสูตร Gental (สีฟ้า) สำหรับคนผิวบอบบาง ผิวแห้ง แพ้ง่าย นอกจากนี้แล้ว ยังมีครีมล้างหน้าที่อ่อนโยนเหมาะกับผู้เป็นสิว ที่ได้รับความนิยมเช่นกัน คือ Cetaphil และ Physiogel 

2. BENZAC AC
สำหรับ BENZAC AC เป็นยาทารักษาสิวอักเสบ มีคุณสมบัติช่วยยับยั้งหรือฆ่าเชื้อแบคทีเรีย P.acne ที่เป็นต้นเหตุการเกิดสิว และตัวยามีคุณสมบัติในการผลัดเซลล์ผิว สามารถช่วยลดการเกิดสิวอุดตันได้ด้วย ใช้ทาก่อนล้างหน้า ทิ้งไว้ประมาณ 5-10 นาที (หากทาทิ้งไว้นานเกินไปผิวอาจแสบแดงได้) โดยทาบางๆ ทั่วใบหน้าหรือเลือกทาเฉพาะบริเวณที่เป็นสิวก็ได้ สามารถทาได้ทั้งตอนเช้าและเย็น ยา BENZAC AC มีขนาดความเข้มข้นให้เลือก 2 ขนาดคือ 2.5% และ 5% ถ้าเป็นคนผิวธรรมดาหรือผิวหน้ามัน ไม่แพ้ง่าย เลือกใช้ Benzac ac 5% ส่วนถ้าเป็นคนผิวแพ้ง่าย ผิวบอบบาง แห้งง่าย แสบลอกง่าย ควรใช้ Benzac ac ที่ความเข้มข้น 2.5% ดูวิธีการรักษาสิวด้วย BENZAC AC อย่างละเอียดได้ที่บทความนี้ http://acnecaresite.blogspot.com/2016/08/how-to-use-benzac-ac.html


3. AloeGel (เจลว่านหางจระเข้) 
สรรพคุณหลักของตัวยา คือ ช่วยรักษาแผลไฟไหม้ น้ำร้อนลวก และให้ความชุ่มชื่นแก่ผิว ในที่นี้เราใช้ทาเพื่อรักษาผิวอักเสบจากรอยแผลสิว อาการแสบแดงเวลาใช้ Benzac และเพื่อเพิ่มความชุ่มชื่นให้แก่ผิว ตัวเจลซึมเข้าผิวง่ายหน้าไม่เหนียวเหนอะหนะค่ะ แนะนำให้เลือกยี่ห้อที่ปราศจากส่วนผสมของแอลกอฮอร์นะคะ เช่น เจลว่านหางจระเข้ขององค์การเภสัช หรือยี่ห้อ Burnova GEL ก็ได้ค่ะ ต่างกันที่ขององค์การเภสัชจะมีกลิ่นฉุนกว่าเล็กน้อย
        นอกจากนี้ หากไม่สะดวกทาเจลว่านหางจระเข้ สามารถใช้ครีมบำรุงผิวพวกเซรั่ม หรือ มอยส์เจอไรเซอร์ เพื่อเพิ่มความชุ่มชิ้นให้ผิวหน้าแทนได้


4. ครีมแต้มสิว
ครีมแต้มสิวที่มีหลายยี่ห้อให้เลือกด้วยกัน เช่น Clinda M, TOMEI, Smooth E Acne Hydro Gel, Clindalin Gel, ภูมิพฤกษา 15, Fucidin เป็นต้น นอกจากนี้ ยา Benzac AC ยังสามารถนำมาทาแต้มหัวสิวทิ้งไว้โดยไม่ต้องล้างออกได้เช่นกัน บางคนก็ทา Clinda M หรือ Clindalin Gel แล้วทา Benzac AC แต้มทับไปอีกก็มี เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ

ดูรีวิวในบทความ แนะนำ 9 ครีมแต้มสิวสิวยุบไว
เนื่องจากแต่ละคนมีสภาพผิวที่ต่างกัน อาจเหมาะกับครีมแต้มสิวที่ต่างกันไป


ข้อปฏิบัติง่ายๆ ที่ช่วยลดสิวได้เป็นอย่างดี
  • พยายามอย่าไปลองใช้ครีมอะไรเยอะ โดยเฉพาะครีมที่ขายตามเน็ตตามเฟสบุคที่ไม่น่าเชื่อถือ จะยิ่งไปอุดตันในรูขุมขนหรือก่อเกิดการระคายเคืองผิว การแพ้ครีม สิวจะยิ่งเห่อ 
  • ใช้ผ้าที่สะอาดในการเช็ดหน้าหรือใช้วิธีซับด้วยกระดาษเช็ดหน้าที่สะอาด 
  • อย่าบีบสิว แกะสิว อย่าใช้มือสัมผัสใบหน้าถ้าไม่จำเป็น เพราะจะยิ่งก่อสิว 
  • หลีกเลี่ยงอาหารมันๆ ควรเน้นทานผัก ผลไม้ และดื่มน้ำ 7-8 แก้วต่อวัน 
  • หมั่นออกกำลังกาย 3-4 ครั้ง/สัปดาห์ เป็นผลดีต่อร่างกายหลายด้าน
  • พักผ่อนให้เพียงพอ ไม่ควรนอนดึก (ควรนอนไม่เกิน 4 ทุ่ม) ยิ่งนอนดึก หน้ายิ่งโทรม สิวยิ่งผุด 
  • ความเครียดส่งผลให้เกิดสิว ใบหน้าหมองคล้ำได้เช่นกัน หมั่นปล่อยวางและคิดบวกอยู่เสมอ
  • ควรหลีกเลี่ยงการแต่งหน้าหากไม่จำเป็น
สุดท้ายนี้ก็หวังว่า บทความนี้จะเป็นประโยชน์ต่อเพื่อนๆ ทุกคนนะคะ ขออวยพรให้ทุกท่านสามารถรักษาสิวอักเสบให้หาย มีใบหน้าสดใสไร้สิวกันค่ะ อีกข้อที่อยากแนะนำเพิ่มเติม คือ หมั่นนั่งสมาธิ อ่านหนังสือหรือฟังธรรมะ จะทำให้จิตใจผ่อนคลาย เมื่อไม่มีความกังวลหรือความเครียด จะช่วยลดการเกิดสิว ช่วยทำให้มีใบหน้าผ่องใสได้ด้วยค่ะ